คือบัตรที่ให้วงเงินในการจับจ่าย แทนเงินสด มีผู้ออกบัตรให้ อาจเป็น ธนาคาร หรือไม่ใช่ธนาคาร non bank และผู้ถือบัตร อาจเป็นบุคคลหรือบัตรสำหรับนิติบุคคลก็ได้ นะครับ
ประโยชน์ ของบัตรเครดิต
คือ ใช้แทนเงินสด ไม่ต้องพกเงินไว้กับตัว และสามารถหยิบเงินในอนาคตที่ดูจะจับต้องยาก ให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ คือเอาวงเงินมาซื้อสินค้าได้
วงเงินบัตร
คือ วงเงินที่ท่างผู้ออกบัตรให้ไว้ในแต่ละรอบบิล สามารถให้ซื้อสินค้าหรือบริการได้ไม่เกินวงเงินที่กำหนดนี้ หากต้องการใช้เกินวงเงิน ต้องขอวงเงินเพิ่ม อาจจะแบบชั่วคราว หรือแบบถาวร หรืออาจต้อง advance เงินสด จ่ายเข้าไปในบัตรเครดิตก่อน เพื่อให้ให้วงเงินไว้รูดซื้อสินค้าหนักๆ ในเวลาต่อมาได้
โทษของการมีบัตร
คือ ใช้เกินที่จะสามารถหาเงินมาจ่ายได้ในอนาคต ทำให้เกิดหนี้ ต้องคอยหนีหนี้ หรือจ่ายขั้นต่ำที่ละนิดๆ ต่อเดือน โดยยอมเสียดอกให้ผู้ออกบัตร หรือโดนโจรกรรมข้อมูล คนอื่นเอาบัตรไปใช้ ทำให้เราต้องมาจ่ายเงินในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้
ผู้ออกบัตรได้อะไร
ผู้ออกบัตรได้ค่าธรรมเนียมจาก ร้านค้าที่ ผู้ถือบัตรนำไปรูดซื้อของ โดยเก็บร้านค้าในเรทต่างๆกัน ทั่วๆไปก็ 1-3% เรทที่เก็บร้านค้า จะต้องสูงกว่า เรทที่จะนำมาทำเป็น cash back หรือ แต้มสะสม
cash back
คือ เงินสดที่จะคืนมายังผู้ถือบัตร อาจคืนมาเป็นเงินสดในวงเงินบัตรเครดิต หรือเงินเข้าบัญชีธนาคารก็ได้ อย่าลืมว่าสิ่งนี้คือรายจ่ายของผู้ออกบัตร ดังนั้นผู้ออกบัตรต้องมีรายได้ที่สูงกว่ารายจ่ายตรงนี้ เช่น ยอดรูด 100 บาท เก็บค่าธรรมเนียมร้านค้า 2 บาท นำมา cash back ให้ผู้ถือบัตร 1 บาท ที่เหลือเป็นกำไร
หรือนำมาเป็นแต้มสะสม 5 แต้ม ซึ่งแต้ม 5 แต้มที่ได้นำไปแลกสิ่งของได้เทียบเท่ามูลค่า 50 สตางค์เป็นต้น ทั้งหมดตัวเลขสมมติให้ดูง่ายๆ ว่า ผู้ออกบัตรไม่ได้ยอมขาดทุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น