การใช้บัตรที่มีลักษณะเสี่ยงกับการโดนโจรกรรมข้อมูล
1 การใช้บัตรไปรูดซื้อของ
การใช้บัตรลักษณะนี้มีความเสี่ยงต่อการโดนพนักงาน แอบจดข้อมูล หรือใช้มือถือถ่ายรูปหน้าหลังบัตรไว้ และนำไปซื้อของออนไลน์อีกต่อหนึ่งในเวปที่ไม่ต้องใส่ รหัส OTP
การป้องกันทำได้โดย
ต้องตามเจ้าหน้าที่ไปดูการรูดบัตรทุกครั้ง แต่บางครั้งอาจไม่สะดวกเช่น ในปั้มน้ำมัน เป็นต้น
ปิดรหัส ccv ด้านหลังไว้ด้วยเทปกาว เพื่อไม่ให้มองเห็น แต่ข้อมูลนี้ไม่จำเป็นต้องกรอกในบางเวปเพื่อทำการซื้อสินค้าออนไลน์
2 การกรอกข้อมูลบัตรผ่าน mail order หรือแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์จ่ายค่าสินค้าโดยบัตรเครดิต
แบบฟอร์มนี้มักจะนิยมใช้ในการสมัครนิตยสารรายปี หรือการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ โดยข้อมูลสำคัญที่กรอกไปจะโดนโจรกรรมไปใช้ ซื้อของออนไลน์ในเวปไซต์ต่างๆ เป็นต้น
การป้องกันทำได้โดย
ยังไม่มีวิธีที่ดีในการป้องกัน แต่ควรดูแบบฟอร์มที่ให้กรอก หากต้องกรอกข้อมูลที่เป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ ccv ไม่ควรกรอกและเปลี่ยนไปจ่ายเงินด้วยวิธีอื่นๆ จะดีกว่า
3 การกรอกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์
การใช้บัตรวิธีนี้ หากจะโดนโจรกรรมข้อมูล มักจะโดนไปทั้งชุดข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้หลายๆ บัตรเครดิต โดย hacker จะเอาฐานข้อมูลบัตรไปใช้
ปกติการจ่ายเงินด้วยระบบออนไลน์ ผ่านระบบ payment gateway มีทั้งที่ร้านค้าเองเป็นคนเก็บข้อมูลบัตร เช่น amazon godaddy ซึ่งจะต้องเป็นเวปใหญ่ๆ ที่กล้าเก็บข้อมูลเอง และมีวิธีรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูล
แต่โดยส่วนมาก จะให้เจ้าของระบบ payment gateway เป็นผู้เก็บข้อมูล เช่น การจองตั๋วเครื่องบินผ่านนกแอร์ จะใช้ระบบ payment gateway ของ kbank และ kbank ก็เป็นผู้เก็บฐานข้อมูลบัตร เป็นต้น ซึ่งโดยปกติจะต้องมีการเข้ารหัส ที่คนทั่วไปแปลไม่ออกว่าเป็นเลขบัตรเครดิตอะไร เพื่อป้องกันไว้อีกชั้น
การป้องกันทำได้โดย
ยังไม่มีวิธีที่ดีในการป้องกัน ควรเลือกเวปไซต์ที่มีระบบ payment gateway ที่น่าเชื่อถือ
การใช้บัตรเครดิต ปัจจุบัน ต้องเสี่ยงกับการโจรกรรมข้อมูลบนบัตรทั้งพวกโจรสมัครเล่น และพวกโจรอาชีพ จะเห็นว่าไม่มีวิธีการใช้บัตรแบบไหนที่ปลอดภัย 100% ดังนั้นจงอย่าไปกังวลให้มาก หากมีรายการผิดปกติก็ทำการปฏิเสธการจ่ายโดยเร็ว เพื่อให้ทางบัตรเครดิตทำเรื่องไปยังร้านค้า ขอวงเงินกลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น